เพราะในหลายกิจกรรม อย่างเช่นการขับรถ เราไม่สามารถเลี่ยงรับรังสี UV เป็นจำนวนมากๆได้ ดังนั้นเราควรรู้ถึงผลกระทบว่า รังสี UV มีผลกับผิวอย่างไร และเราจะรับมือกับมันได้อย่างไรบ้าง
มาทำความรู้จักกับรังสีอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet Radiation) หรือเรามักเรียกตัวย่อของมันกันว่า ยูวี (UV)
เป็นรังสีเหนือม่วง เป็นรังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดจากการแผ่ของดวงอาทิตย์ ซึ่งมีความยาวคลื่นอยู่ในช่วง 100–400 nm ความถี่ 1015-1217 Hz ซึ่งตาของมนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้
รังสี UV มีผลกับผิวอย่างไร
ประกอบด้วย 3 ชนิดความยาวคลื่น คือ
- UVA หรือเรียกชื่ออื่นว่า Long wave UVR หรือ Black light ความยาวคลื่น 315 – 400 nm มีระดับพลังงาน 3.10-3.94 eV ซึ่งเป็นช่วงความยาวคลื่นที่สั้นที่สุด จึงมีพลังงานมากที่สุดด้วย รังสี UVC เกือบทั้งหมดนี้จะถูกกรองที่ชั้นบรรยากาศของโลก และถึงแม้จะมีปริมาณเพียงเล็กน้อย ก็สามารถทำให้เกิดผื่นแดงและทำให้สีผิวเปลี่ยนเป็นสีแทนได้
- UVB หรือเรียกชื่ออื่นว่า Middle UVR หรือ Sunburn Radiation ความยาวคลื่น 280 – 315 nm มีระดับพลังงาน 3.94-4.43 eV ซึ่งเป็นช่วงความยาวคลื่น ที่ทำให้เกิดผื่นแดงและไหม้เกรียมได้ เพราะมันสามารถทะลุผ่านผิวหนังชั้นสเตรตัม คอร์เนียม (Stratum corneum) และอีพิเดอมีส (Epidermis) ได้ รังสีนี้จะทำให้เกิดผลเสียต่อผิวหนังในทันที เช่น ผิวไหม้เกรียม ผื่นแดงเป็นต้น
- UVC หรือเรียกชื่ออื่นว่า Short wave UVR หรือ Germicidal Radiation ความยาวคลื่น 100 – 280 nm มีระดับพลังงาน 4.43-12.4 eV รังสีช่วงนี้จะมีพลังงานต่ำสุด แต่มีอำนาจทะลุทะลวงผ่านชั้นผิวหนังได้ลึกที่สุด และมีผลกระทบเป็นวงกว้างต่อโครงสร้างชั้นผิวหนัง รังสีนี้ในปริมาณน้อยก็สามารถทะลุผ่านชั้นหนังแท้ (Dermis) ได้ ซึ่งจะไปกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานินได้มาก และเมลานินนี้จะไปปกป้องผิวจากการถูกทำลายอีกต่อ
โทษของรังสีอัลตราไวโอเลต
ผิวหนังเป็นด่านแรกที่ได้รับปริมาณรังสีมากที่สุด ถือเป็นส่วนที่ช่วยปกป้องร่างกายจากรังสีชนิดต่างๆ สำหรับรังสียูวี (UV) มีอันตรายมากต่อผิวหนัง สามารถทำให้เกิดรอยไหม้ (Sunburn) และความผิดปกติของสารพันธุกรรม นอกจากนี้ ยังก่อให้เกิดกระบวนการลิปิดเพอร์ออกซิเดชั่น (Lipid peroxidation) และการอักเสบเฉียบพลัน รวมถึงการเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่ออันเกิดจากการเกิดอนุมูลอิสระของรังสียูวี
ดังนั้นการสัมผัสกับแสงแดดนานๆ โดยเฉพาะรังสี UVA ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระที่ผิวหนังได้ และอนุมูลอิสระนี้จะไปทำลายเซลล์ผิวหนัง จากภายในเซลล์เอง และทำลายชั้นของเส้นใยคอลลาเจน และอีลาสติน ทำให้เกิดผิวหนังหมองคล้ำ หย่อนยาน เกิดรอยตีนกาได้ง่ายดาย ทำให้เกิดสภาวะที่เรียกว่า
แก่ก่อนวัยอันเกิดจากแสงแดด
สำหรับคนที่ต้องขับรถ หรือโดยสารรถยนต์วันละหลายชั่วโมง ก็ไม่สามารถเลี่ยงกับการสัมผัสแดดเป็นเวลานาน ข่าวดีคือฟิล์มติดรถที่เราใช้กันอยู่ ที่มีการป้องกัน UV ได้ 99% ซึ่งนั้นร่วม UVB และ UVA ด้วย ทำให้เราอุ่นใจไปได้มากเลยทีเดียว
แต่การติดฟิล์มก็ยังมีข้อจำกัดเรื่องการเลือกค่าการป้องกันความเข้มแสงแดดอยู่ เช่นหากต้องการวิสัยทัศน์ก็อาจจะเลือกสีใสหน่อย (ซึ่ง OK ว่าสามารถป้องกัน UV ได้) ก็จะเจอปัญหาแดดจ้าเกินไปเวลาขับรถ และคนนั่งมาด้วยก็นั่งไม่สบายเพราะมีแสงแดดรบกวน
ปัญหาสามารถแก้ได้ด้วยการติดตั้ง ม่านบังแดดรถเข้ารูป GroovyThailand คัดสรรเนื้อวัสดุ Polyester ที่มีลักษณะเด่นคือ ออกแบบให้เข้ารูปกับหน้าต่างเฉพาะรุ่น ทำให้ป้องกันได้เต็มพื่นที่ มีความยืดหยุ่นสูง ต้านทานการลุกติดไฟ สามารถกันความร้อนและรังสี UV ได้ 67% ตามมาตรฐานของ TUV สามารถพับเก็บได้ ถอดเก็บเองได้อย่างง่ายดาย จึงให้ความสะดวกรวดเร็วในขณะที่ต้องการใช้งาน
“ลดร้อนในรถคุณอย่างมีสไตล์ ด้วยม่านบังแดดเข้ารูปเฉพาะสำหรับรถคุณ”